วิเคราะห์เกมการแข่งระหว่าง ไบรท์ตัน VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม 2563 เวลา 02.15 น.(ตามเวลาประเทศไทย)

 

 

ความพร้อมของไบรท์ตัน

ไบรท์ตัน รั้งอันดับ 15 อยู่เหนือโซนตกชั้นอยู่ 6 คะแนน ถ้าเกมนี้พวกเขาคว้า 3 คะแนนมาได้ จะถือว่าค่อนข้างปลอดภัยพอสมควรเนื่องจากจะทิ้งบอร์นมัธห่างถึง 9 แต้ม และเหลือการแข่งขันอีก 6 นัด ซึ่งถ้าไม่พลาดเละเทะจริง ๆ ก็ไม่น่าจะตกชั้น แต่เกมนี้พวกเขาต้องเจอ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นงานหินสุด ๆ

 

โฆเซ อิสกีเออร์โด ยังเป็นนักเตะคนเดียวของทีมที่ไม่สามารถลงสนามได้เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่ สตีเว่น อัลซาเต้ และ อดัม เว็บสเตอร์ น่าจะหายจากอาการบาดเจ็บพร้อมลงสนามได้อีกครั้ง แต่ก็อาจจะไม่มีผลต่อการจัดตัวของ แกรห์ม พ็อตเตอร์ เท่าไหร่นัก

 

เกมนี้ค่อนข้างมั่นใจได้ว่า เราอาจจะเห็น “เจ้านกนางนวล” เล่นในแบบที่พวกเขาเอาชนะ อาร์เซนอล มาเมื่อ 2 เกมก่อน คือตั้งรับเหนียวแน่น อาศัยจังหวะโต้กลับ และลุ้นจากลูกตั้งเตะเป็นหลัก และเราก็เห็นแล้วว่ามันอันตรายพอที่จะโค่นทีมใหญ่ได้เหมือนกัน

 

ผลงานของไบรท์ตัน 5 นัดล่าสุด

22/02/20 เสมอ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

29/02/20 แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

07/03/20 เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

20/06/20 ชนะ อาร์เซน่อล 2-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

24/06/20 เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

 

ความพร้อมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการ 3 คะแนนเพื่อจี้ทั้งเชลซี และขึ้นไปทาบ วูล์ฟแฮมป์ตัน ในการลุ้นพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อไป และสถานการณ์ของพวกเขาจะย่ำแย่ทันที ถ้าพวกเขาเก็บ 3 คะแนนในนัดนี้ไม่ได้ ซึ่งสถานการณ์ในการมาเยือนไบรท์ตันครั้งนี้ พวกเขาต้องเล่นภายใต้แรงกดดันพอสมควรทีเดียว

 

นอกจาก ฟิล โจนส์ และ แอคเซล ตวนเซเบ้ แล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลในเกมนี้ พวกเขาสามารถจัดทัพชุดใหญ่แบบที่เขาต้องการได้เลย ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่การที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะใส่ทั้ง ปอล ป็อกบา และ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นตัวจริงในเกมนี้ด้วย

 

ผลงานกในเกมที่แล้วกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ของพวกเขาทำได้ดีมาก แต่ปัญหาคือ ยูไนเต็ด เพิ่งผ่านเกม เอฟเอ คัพ กับ นอริช ซิตี้ มา และนักเตะหลายคนก็มีบทบาทในเกมนั้น ต้องมาดูกันว่า มันจะกระทบถึงเกมนี้ที่พวกเขาต้องเล่นต่อเนื่องหลังจากพักได้แค่ 3 วันหรือไม่

 

ผลงานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5 นัดล่าสุด

08/03/20 ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

13/03/20 ชนะ แอลเอเอสเค ลินซ์ 5-0 (เยือน, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก)

20/06/20 เสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

25/06/20 ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

27/06/20 เสมอ นอริช ซิตี้ 1-1 (E 2-1) (เยือน, เอฟเอ คัพ)

 

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

18/03/18 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ไบรท์ตัน 2-0 (เอฟเอ คัพ)

05/05/18 ไบรท์ตัน ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 (พรีเมียร์ลีก)

19/08/18 ไบรท์ตัน ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-2 (พรีเมียร์ลีก)

19/01/19 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ไบรท์ตัน 2-1 (พรีเมียร์ลีก)

10/11/19 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ไบรท์ตัน 3-1 (พรีเมียร์ลีก)

 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ไบรท์ตัน (4-2-3-1) : แม็ทธิว ไรอัน – มาร์ติน มอนโตย่า, เชน ดัฟฟี่, ลูอิส ดังค์, แดน เบิร์น – ดาวี่ พรอพเพอร์, อีฟส์ บิสซูม่า – ปาสกาล กรอสส์, เลอันโดร ทรอสซาร์, อารอย มอย – นีล โมปาย

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-3-1-2) : ดาบิด เด เคอา – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ – เนมานย่า มาติช, ปอล ป็อกบา – เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อองโตนี่ มาร์กซิยาล

 

วิเคราะห์ผลบอล

แมนฯ ยูไนเต็ด ตกอยู่ในสถานการณ์ “ต้องเอา” มากกว่า เพราะผลเสมอ หรือ แพ้ ในเกมนี้ อาจจะหมายถึงการไม่ได้ไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีกส์ ในบั้นปลายฤดูกาลได้เลย แต่อย่างไรก็ตาม งานนี้ไม่น่าใช่งานงายเพราะไบรท์ตันเองก็เล่นได้อย่างแข็งแกร่งใน 3 นัดหลัง และทีมอย่าง วูล์ฟส์ ก็สะดุดเพราะพวกเขามาแล้ว

 

แน่นอนว่า รูปแบบเกมเดาไม่ยาก ถึงแม้จะเป็นเจ้าบ้าน แต่ “เจ้านกนางนวล” ไม่น่าจะเดินเข้าหาก่อนแน่นอน ซึ่งถ้า ยูไนเต็ด ที่บุกเข้าใส่ บุกเพลิน หรือ บุกแล้วจบสกอร์เป็นประตูไม่ได้ โอกาสก็ตกอยู่กับเจ้าบ้านได้เหมือนกับที่อาร์เซนอล เจอทีเด็ดมาแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม สถิติที่ผ่าน ๆ มา ทีมเยือนเหนือกว่าค่อนข้างมากในการเจอกัน 6 นัดหลัง และทั้ง 6 นัดที่ผ่านมาก็ไม่มีผลเสมอเลย เกมนี้ เชื่อว่า ยูไนเต็ด น่าจะเอาตัวรอดได้และลุ้นขับเคี่ยวในพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อไปได้

 

ผลที่คาด : ไบรท์ตัน แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-3