วิเคราะห์เกมการแข่งขันระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค VS แอตเลติโก มาดริด

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม 2563 เวลา 02.00 น.(ตามเวลาประเทศไทย)

 

 

ความพร้อมของบาเยิร์น มิวนิค

บาเยิร์นยังรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ค่อนข้างดี โดยในบุนเดสลีกา 4 นัดแรกของฤดูกาล ทีมเสือใต้ชนะ 3 และมีสะดุดแพ้ 1 นัด ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องความแข็งแกร่งของบาเยิร์นนั้นไม่มีใครสงสัย แต่ที่ต้องจับตาคือ “ความกระหาย” หลังจากพวกเขาเพิ่งได้สัมผัสแชมป์ยูซีแอลมาหมาดๆเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

 

ส่วนตัวผู้เล่นในเกมนี้ กุนซือฮันซี่ ฟลิค จะหมดสิทธิใช้งาน ลีรอย ซาเน่ ที่มีอาการบาดเจ็บ และ แซร์จ นาบรี้ ซึ่งถูกตรวจพบว่าติดโควิด ทำให้ ดักลาส คอสต้า ปีกที่ยืมตัวมายูเวนตุสเป็นครั้งที่สอง จะได้ลงลากเลื้อยแทน ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆไม่มีปัญหา ดาวิด อลาบา, เลออน กอเรตซ์ก้า, โธมัส มุลเลอร์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ พร้อมลงสนามเต็มที่

 

ผลงานของบาเยิร์น มิวนิค 5 นัดล่าสุด

27/09/20 แพ้ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 1-4 (เยือน, บุนเดสลีกา)

01/10/20 ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 3-2 (เหย้า, เดเอฟแอล-ซูเปอร์คัพ)

04/10/20 ชนะ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 4-3 (เหย้า, บุนเดสลีกา)

05/10/20 ชนะ ดือเรน 3-0 (เยือน, เดเอฟเบ โพคาล)

17/10/20 ชนะ อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ 4-1 (เยือน, บุนเดสลีกา)

 

ความพร้อมของแอตเลติโก มาดริด

แอต.มาดริดยังไม่แพ้ใครในช่วงออกสตาร์ทศึกลาลีกา 4 นัดแรก หลังทำผลงานชนะ 2 เสมอ 2 ซึ่งทีมตราหมีก็ยังคง “จุดขาย” ของทีมไว้ได้เช่นเดิม นั่นคือเกมรับอันแข็งโป๊ก โดย 4 นัดที่ผ่านมา พวกเขาเสียประตูไปแค่ลูกเดียวเท่านั้น

 

ขณะที่ขุมกำลังของแอต.มาดริดในซีซั่นนี้ พวกเขาปล่อย อัลบาโร โมราต้า ไปยังยูเวนตุส แต่ก็ได้ หลุยส์ ซัวเรซ จากบาร์เซโลน่าเข้ามาทดแทน รวมถึงการยืมตัว ลูคัส ตอร์เรรา กองกลางเชิงรับมาจากอาร์เซน่อล ซึ่งสลับขั้วกับ โธมัส ปาร์เตย์ ที่ถูกทีมปืนใหญ่กระชากตัวไปลุยพรีเมียร์ลีก 

 

ส่วนเกมจะบุกไปเยือนบาเยิร์น กุนซือดีเอโก้ ซิเมโอเน่ พร้อมใช้งานสองแข้งใหม่ ซัวเรซ กับ ตอร์เรร่า ลงผนึกกำลังกับตัวหลักอย่าง ชูเอา เฟลิกซ์, โกเก้ แต่จะไม่มี โฆเซ่ ฆิเมเนซ, ซิเม เวอร์ซัลจ์โก้ และ ซาอูล ญิเกซ ที่มีอาการบาดเจ็บ

 

ผลงานของแอตเลติโก มาดริด 5 นัดล่าสุด

14/08/20 แพ้ ไลป์ซิก 1-2 (สนามกลาง, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

27/09/20 ชนะ กรานาด้า 6-1 (เหย้า, ลา ลีกา)

30/09/20 เสมอ อูเอสก้า 0-0 (เยือน, ลา ลีกา)

03/10/20 เสมอ บียาร์เรอัล 0-0 (เหย้า, ลา ลีกา)

17/10/20 ชนะ เซลต้า บีโก้ 2-0 (เยือน, ลา ลีกา)

 

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

28/04/16 แอตเลติโก มาดริด 1-0 บาเยิร์น มิวนิค (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

04/05/16 บาเยิร์น มิวนิค 2-1 แอตเลติโก มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

29/09/16 แอตเลติโก มาดริด 1-0 บาเยิร์น มิวนิค (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

07/12/16 บาเยิร์น มิวนิค 1-0 แอตเลติโก มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ – เบนฌาแม็ง ปาวาร์, นิคลาส ซือเล่, ดาวิด อลาบา, ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ – โยชัว คิมมิช, เลออน โกเร็ทซ์ก้า – ดั๊กลาส คอนต้า, โธมัส มุลเลอร์, คิงส์ลี่ย์ โกม็อง – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

 

แอตเลติโก มาดริด (4-4-2) : ยาน โอบลัค – คีแรน ทริปเปียร์, สเตฟาน ซาวิช, เฟลิเป้, เรนาน โลดี้ – อังเคล กอร์เรอา, ลูคัส ตอร์เรร่า, โกเก้, ยานนิค แฟร์เรร่า การ์ราสโก้ – ชูเอา เฟลิกซ์, หลุยส์ ซัวเรซ

 

วิเคราะห์ผลบอล

ถึงแม้จะปล่อยแข้งดังออกจากทีมหลายคน อาทิ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่ย้ายไปลิเวอร์พูล รวมทั้ง อิวาน เปริซิช กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ถูกส่งคืนต้นสังกัด เนื่องจากหมดสัญญายืมตัว แต่มาตรฐานของ บาเยิร์น มิวนิค ก็ยังแข็งแกร่ง โดยผู้เล่นตัวหลักในแต่ละตำแหน่งยังอยู่กันครบถ้วน ทั้งนอยเออร์, อลาบา, กอเรตซ์ก้า, มุลเลอร์ หรือ เลวานดอฟสกี้

 

ส่วน แอต.มาดริด ก็เป็นอีกหนึ่งทีมสุดเขี้ยวของเวทียุโรป แต่ก็ต้องยอมรับว่าผลงานของพวกเขาในระยะหลังนั้นดร็อปลงไปเมื่อเทียบกับช่วง 3-4 ฤดูกาลก่อน ซึ่งทีมตราหมีเคยทะลุเข้าถึงรอบรองและรอบชิง ศึกยูซีแอลมาแล้ว 

 

ดูแล้วเกมนี้ บาเยิร์น ยังเหนือกว่าและน่าจะเจาะแนวรับทีมเยือน เบียดคว้า 3 แต้มในถิ่นตัวเองได้สำเร็จ

 

ผลที่คาด : บาเยิร์น มิวนิค 1 – 0 แอตเลติโก มาดริด