ข่าวนักฟุตบอลเสียชีวิต รวบรวมนักฟุตบอลมีชื่อเสียง แต่ต้องหมดอนาคตก่อนวัยอันสมควร
ข่าวนักฟุตบอลเสียชีวิต ก่อนแขวนสตั๊ด หลังจากวันที่ 4 มีนาดม 2018 ได้มีเหตุสลดเกิดขึ้นในวงการฟุตบอลอิตาลี เมื่อดาวิด อัสโตรี่ ปราการหลังกัปตันทีมฟิออเรนติน่า ได้เสียชีวิตลงในวัย 31 ปี โดยแพทย์วินิจฉัยว่า เกิดอาการล้มเหลวหัวใจเฉียบพลัน ในขณะพักอยู่ในโรงแรม โดยดาวิด อัสโตรี่ ถือเป็นนักเตะที่กำลังทำผลงานได้ดีกับฟิออเรนติน่า และเป็นนักเตะที่ติดทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่มาแล้ว 14 นัด และทำได้ 1 ประตู ดาวิด
เรื่องราวของ ดาวิด อัสโตรี่
ดาวิด อัสโตรี่ เองเป็นนักเตะที่มากประสบการณ์คนนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาเองจะไม่ใช่ขาประจำในทีมชาติ แต่ด้วยประสบการณ์ ในการค้าแข้งกับสโมสร ชั้นนำในอิตาลีมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเอซีมิลาน กายารี่ โรมา จนมาถึงผลงานที่โดดเด่นที่สุด จนได้เป็นกัปตันทีมอาเจนติน่า ดังนั้นการศูนย์เสียปราการหลังคนนี้ไป ถือเป็นเรื่องสุดเศร้าเป็นอย่างยิ่ง กับวงการฟุตบอลแดนมักกะโรนี แต่ยิ่งเศร้าเข้าไปอีก เนื่องจากตัวเขาเพิ่งเป็นพ่อคน หลังจากภรรยาของเขาเพิ่งคลอดได้ไม่ถึง 2 สัปดาที่ผ่านมา นั้นจึงทำให้เพือนๆนักฟุตบอล รวมไปถึงแฟนๆฟุตบอลในลีกอิตาลี ต่างหลั่งน้ำตาให้กับการศูนย์เสียผู้นี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ
และมีนักตะอีกหลายคนที่จะบอกเล่าย้อนรำลึก
ข่าวนักฟุตบอลเสียชีวิต หลังจากดาวิด อัสโตรี่ จะมีใครบ้าง ผู้เขียนจะพาไปย้อนรำลึกร่วมกัน
วันนี้ผู้เขียนขอถือโอกาส จากนักเตะอีกจำนวนหนึ่ง ถึงการเสียชีวิตต่อวัยอันควร ที่กำลังมีอนาคตไกล คนแรก
ไมคอน โอเรียร่า เมื่อวันที่ 8 กุมภาพัน 2014 วงการฟุตบอลก็ต้องพบกับการสูญเสียอีครั้ง ด้วยการจากไปของศูนย์หน้าตัวเก่ง ของทีมชัคเตอร์ โดเนท ซึ่งถูกคร่าชีวิตไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในขณะที่เขามีอายุ 25 ปี เท่านั้น ในตอนนั้นเขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของสโมสร ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นเรื่องสะเทือนใจ ไปกับวงการฟุตบอลเป็นอย่างมาก และก็เป็นสิ่งเตือนใจให้กับนักซิ่งทั้งหาย ได้ใช้ชีวิตที่มีสติได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน
อังเดส เอสโคบา ในศึกฟุตบอลโลกในปี 1994 ที่ทีมชาติโคลัมเบียของเอส โคบา ต้องพบกับความพ่ายแพ้แก่สหรัฐอเมริกาไป 2 – 1 ด้วยการทำเข้าประตูตัวเอง ของกองหลังตัวเก่งคนนี้ และหลังจากการสาปแช่ง จากแฟนบอลในชาติเดียวกัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการตกรอบในครั้งนั้น ทำให้ เอส โคบา ต้องพบกับจุดจบอย่างไม่มีใครอยากให้เกิด ด้วยกระสุนปืน 6 นัด ส่งเข้าไปฝังในศรีษะของเขา ในไนต์คลับแห่งหนึ่ง หลังจากเขากลับมาจากประเทศตัวเองได้ไม่นาน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแก๊งมาเฟียใหญ่ ในโคลัมเบีย ที่เสียผลประโยชน์มหาศาล ในการพนันในเกมนั้น
คริสเตียน เบนิเตซ ในเดือนกรกฎาคม 2013 คริสเตียน เบนิเตซ ศูนย์หน้าทีมชาติเอกวาดอร์ ได้เสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย โดยก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งจะได้ลงเล่นเป็นนัดแรก ให้กับต้นสังกัดใหม่ ในลีกกาตาในก่อนหน้านั้นเพียงแค่ 1นัดเท่านั้น ต้นเรื่องของการศูนย์เสียในครั้งนี้ จากที่ตัวเขาปวดท้องอย่างรุ่นแรง จนต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่หลังจากนั้นระบบหมุนเวียนในเลือด เกิดปัญหาอย่างรุนแรง จนส่งผลให้หัวใจของเค้าหยุดเต้นในที่สุด
เซนซู เมยูว่า ในเดือนตุลาคม ปี 2505 ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมโศกเกิดขี้น เมื่อผู้รักษาประตูกัปตันทีมชาติแอฟริกาใต้ ได้ถูกสังหาญโหด ด้วยการรั่วปืนจนถึงแก่ความตาย เรื่องราวอันน่าสลดนี้เกิดขึ้นเพียงเพราะ มีผู้ร้าย 2 คน ที่ต้องการจะพยายามลักทรัพย์ในบ้านของเขา ซึ่งต้องบอกว่าอีกหนึ่งเหตุการณ์ศูนย์เสียครั้งสำคัญ ของโลกลูกหนังแดนกาฬทวีป
โรเบิร์ต แองเค่ วันที่ 10 พฤศจิกายน ปี 2009 เป็นอีกหนึ่งความศูนย์เสียครั้งใหญ่ ของวงการฟุตบอลเยอรมันเลยก็ว่าได้ เมื่อผู้รักษาประตูฝีมือดีอย่าง โรเบิร์ต แองเค่ ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ด้วยการยืนรอให้รถไฟ แล่นมาฉีกร่างของเขาด้วยความยินยอม จากอดีตดาวรุ่งพุ่งแรงของโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ทั้งล้มเหลวและประสบความสำเร็จ ผลัดกันมาในชีวิตอย่างโลดโผน อีกทั้งยังเคยไปร่วมทีมกับบาเซโลน่า สโมสรยักษใหญ่ในสเปนอีกด้วย แต่ความเจ็บปวดที่สุดของชีวิต แองเค่ ก็คือการที่เขาต้องศูนย์เสียลูกสาว ตัวน้อยไปเมื่อหลายปีก่อน ทำให้นายประตูผู้นี้ ตรอมใจเป็นอย่างหนัก ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุของการตัดสินใจ จบชีวิตตัวเองของเค้าในที่สุด
และนี้คือเรื่องราวรำลึก ของของการศูนย์เสียนักเตะ ที่อนาคตไกล ที่เขาต้องเสียชีวิตด้วยวัยอันควร จากเหตุการณ์ต่างๆ นอกสนาม
ประวัติของ ดาวิเด้ อัสตอรี่
เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่ช็อควงการลูกหนังพอสมควร มีการสูญเสียนักฟุตบอลเกิดขึ้น เป็นนักเตะกัปตันทีมของทีมฟิออเราติน่า เป็น ดาวิเด้ อัสตอรี่ กัปตันทีมคนเก่งชีวิตไปด้วยวัย 31 ปี โดยเบื้องต้นข่าวจากข่าวทุกสำนักในตอนนั้น คือทางทีมพบว่าเขาเสียชีวิตที่โรงแรม ก่อนที่จะเตะกับอุดิเนเซ ในเบื่องต้นคาดว่าเป็นมาจากโลกหัวใจ หยุดเต้นเฉียบพลัน ถือว่าเป็นการสูญเสียนักเตะที่มีฝีเท้า
โดขเขานั้นเป็นเด็กปั้นเยาวชนของเอซีมิลาน ต่อมาก็ไม่สามารถขึ้นทางชุดใหญ่ของสโมสรได้ ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับกายารี่ในปี 2008 แล้วก็เป็นตัวจริงให้ทางกายารี่อย่างต่อเนื่อง ในช่วงระยะเวลา 6 ปี ก่อนที่ปี 2014 ถูกยืมตัวมาทีโรมา และก็ปี 2015 ถูกยืมตัวมาที่ฟิออเรนติน่า จนสุดทายก็ย้ายที่ฟิออเรนติน่าปี 2016 ก่อนที่จะเล่นกับฟิออเราติน่า มาจนถึงปัจจุบันและวันสุดทายที่เขาจะค้าแข้งด้วย และก็เป็นทั้งกัปตันทีมของฟิอออีกด้วย คือต้องบอกว่าโดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนเอง ก็ไม่ได้รู้จักทางอัสตอรี่มากเท่าไร คือพอเห็นข่าวนี้ขึ้นมาแล้วรู้สึกหดหู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นลีกที่ตัวเองเชียร์เป็นหลัก แต่ว่าการที่ได้เห็นนักฟุตบอล เคยผ่านหูผ่านตามา หรือว่าเคยเห็นการเล่นมา เราก็รู้สึกหดหูและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก็เป็นการสูญเสียในนามทีมชาติอิตาลีด้วย
ประวัติของนักฟุตบอลโรเบิร์ต เองเค่
หากขึ้นชื่อด้วยความสูญเสียแล้วละก็ แน่นอนว่าย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครอยากให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียในรูปแบบใด ทั้งทรัพย์สินเงินทอง ของรักของหวง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนอันเป็นที่รัก
เรื่องราวของ เองเค่ในวันนี้อาจจะเป็นเรื่องเศร้า แต่เจตนาอยากให้ทุกคนคบทวนคับว่า ในชีวิตประจำวันของเราทุกคนนั้น และอดีตผู้รักษาประตูทีมชาติเยอรมัน ที่มีชื่อว่า เป็นผู้รักษาประตูที่มากด้วยความสามารถ ที่ถูกยกย่องเป็นอย่างสูง จากคนในวงการแวดวงการฟุตบอลเยอรมัน ในช่วงยุคสมัยของเขานั้น
หากไม่มีปัญหาจากอาการบาดเจ็บแล้วละก็ มือ 1 ทีมชาติอินทรีเหล็ก จะตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน เองเค่ มีชีวิตในวัยเด็กเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป ที่มีความใฝ่ฝัน ที่จะได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ ซึ่งด้วยความที่เขามีพ่อเป็นนักวิทยาศาสตร์การกีฬาด้วย ทำให้ไมแปลกเลยที่ เองเค่ จะชอบในฟุตบอล และมันเป็นสิ่งเดียวที่เขารัก
จากแรกเริ่มเดิมที เขาเคยเป็นกองหน้ามาก่อน แต่เมื่อถูกย้ายมาเป็นผู้รักษาประตูจำเป็น เขากลับทำออกมาได้ดีเอามากๆ จนแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว กับการสวมถุงมือเก็บกวาดหลังบ้าน จนทำให้เขาติดทีมชาติยุนอายุไม่เกิน 15 ปี ได้ทำการแข่งขันกับประเทศอังกฤษ และจากเกมนั้นมันเป็นจุดเริ่มต้น ที่เขาได้รับสัญญาอาชีพในวัย 16 ปี หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ได้ย้ายไปกลัดบัต หลังจากนั้นทีมมีการตกชั้นลงไป นักเตะหลายคนย้ายออกไปแม้แต่เองเค่เองก็ด้วย และเป็นเบนฟิกายอดทีมดังของโปรตุเกส ข่าวกีฬาฟุตบอล
โดยตอนนั้นจุฟไฮเกสเป็นผู้จัดการทีมอยู่ หลังจากนั้นสโมสรมีการเปลี่ยนแปลงปัญหาภายในทีม สโมสรสุดท้ายที่เองเค่กลับมาเล่นให้อีกครั้ง และสโมสรที่ไดรับความไววางใจ นั้นก็คือลีกในบ้านเกิด ฮันโนโว 96 ถือเป็นสโมสรคู่แข่งทีมแรกของเขา ที่นี้เองจึงได้กลายเป็นสถานีลูกหนังสุดทายของเขา เขาถูกโหวตให้เป็นผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำปี ในซีซั่นแรกที่กลับมาเล่นที่เยอรมันอีกครั้งนึ่ง และดูเหมือนว่าชีวิตของเขาจะกลับมาสู่ฟอร์มที่ดีอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะพลาดไปเล่นฟุตบอลโลกปี 2006 ก็ตาม
แต่หลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนกุนซือจากคลินมัน มาเป็นโยฮันคิน เลิฟ เขาก็เริ่มกลายมาเป็นขาประจำในทีมชาติ ช่วงที่เยนเลมันเลิกเล่นทีมชาติไป เองเค่ก็คือตัวจริงไปโดยปริยาย ได้รับช่วงในการขึ้นมาเป็นมือ 1 แทน หลายคนอาจจะคิดว่ามันจะจบแบบสวยงาม ตาไม่ใช่เลย เค้าต้องมาทนทุกอีกครั้ง เพราะการที่เขาต้องศูนย์เสียบุตรสาวไปอย่างไม่มีวันกลับ ทั้งที่มีอายุเพียง 18 เดือน หัวใจเขาแทบสลาย จนเขาเองไม่สามารถแบกรับมันได้อีกต่อไปแล้ว เองเค่ ได้เขียนจดหมายลาตายเอาไว้ ความผิดหวังหลายอย่าง ทำให้ตัวเขากลัดกลุ้มอยู่ภายใน สาเหตุการตายเขามีการขับรถออกไปด้วยความเร็ว มุ่งไปที่รางรถไฟ ในตอนที่รถไฟกำลังแลนผ่าน เขาได้ตัดสินใจแล้วก่อนหน้านั้นแล้ว ในจดหมายเขียนไว้ว่า พ่อจะตามไปอยู่กับลูก มันเป็นฉากสุดทายของเค้า เมื่อรถยนต์ของเขาพุ่งประสานงานกับรถไฟอย่างจัง โรเบิรต เองเค่
เพิ่มเติมได้ที่ >>>> แอปดูบอลพรีเมียร์ลีก